ปั่นจักรยานไหว้พระ 9 วัด +1 ฝั่งกรุงเทพมหานคร
เกาะรัตนโกสินทร์เป็นสถานที่ที่เราน่าจะหาโอกาสมาสักครั้งในชีวิต เพราะมีวัดสวยงามมากมาย วันนี้ผมจะแนะนำเส้นทางปั่นจักรยาน โดยมีจุดมุ่งหมายไหว้พระ 9 วัด รอบๆเกาะรัตนโกสินทร์กัน เริ่มด้วยวัดแรกครับ
1.วัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้ว
วัดพระแก้วเป็นวัดที่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2325 เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง เช่นเดียวกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวังหลวงในสมัยอยุธยาและเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกต ที่นำมาจากกรุงเวียงจันทร์ เนื่องจากเป็นวัดในเขตพระบรมมหาราชวังนี่เอง จึงเข้มงวดเรื่องการแต่งตัวในการเข้าชมวัดมาก
ระเบียบการแต่งกายเพื่อเข้าชมวัดพระแก้ว
วันนี้ผมใส่กางเกงปั่นจักรยานสีดำขายาวมาครับ ซึ่งผิดระเบียบเต็มๆ เราสามารถขอยืมกางเกงและผ้าคลุมได้ที่ประชาสัมพันธ์ก่อนเข้าครับ แต่วันอาทิตย์อย่างนี้คนเยอะมากครับคิวยาวเหยียดทั้งชาวไทยเองและชาวต่างประเทศ ผมดูแล้วถ้ารอคิวนี่วันนี้ไม่บรรลุจุดหมาย 9 วัดแน่ ประกอบกับเคยมาแล้ว จึงตัดสินใจไหว้พระและเที่ยวชมแต่เขตภายนอกครับ
เมื่อเป็นอย่างนี้ต้องชดเชยกันหน่อย จึงเป็นที่มาของ +1ตามหัวข้อ 😀 เราข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ไหว้พระที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพกันครับ
ศาลหลักเมืองกรุงเทพสร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 1 ปีเดียวกับปีที่สร้างวัดพระแก้ว เชื่อกันว่าถ้ามาสักการะบูชาศาลหลักเมืองจะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ศาลหลักเมืองกรุงเทพ
เทพารักษ์ผู้พิทักษ์ให้ความร่มเย็นแก่บ้านเมืองทั้ง ๕
2 วัดพระเชตุพลวิมลมังคลารามหรือวัดโพธิ์
วัดโพธิ์เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๑ วัดโพธิ์เป็นที่รวมสรรพศิลป์ สรรพศาสตร์ เปรียบเหมือนเป็นมหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรก ที่รวมเอาภูมิปัญญาไทยไว้ให้เรียนรู้กัน ผมว่าเราสามารถอยู่เที่ยวชมวัดโพธิ์ได้ทั้งวัน มีอะไรให้ดูและศึกษาเยอะมาก สำหรับคนที่รักการถ่ายรูปนี่เป็นสถานที่นึงเลยที่น่ามาฝึกปรือฝีมือ เพราะมีมุมสวยๆมากมาย อ้อ ผมเดินหายักษ์วัดโพธิ์อยู่ตั้งนานหายังไงก็ไม่เจอ กลับมาค้นประวัติและดูรูป ถึงรู้ว่าผมเห็นแล้วแต่มองผ่านไป ก็ผมไม่คิดว่ายักษ์มันจะตัวเล็กเท่าเรานี่เอง สังเกตรูปแรกนะครับ ว่าเห็นยักษ์วัดโพธิ์กันหรือเปล่า
พระมหาเจดีย์สี่รัชกาล
พระพุทธไสยาส หรือที่เรียกกันว่า พระนอนวัดโพธิ์
ภาพเขียนในพระวิหารพระพุทธไสยาส
ตุ๊กตาจีน
วัดโพธฺิ์ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมีจำนวนประมาณ 99 องค์
3.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
วัดชนะสงครามได้รับพระราชทานนามเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง 3 ครั้ง จึงมีคติความเชื่อกันว่าถ้ามาไหว้พระที่วัดชนะสงคราม จะช่วยให้มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง
พระประธานในพระอุโบสถวัดชนะสงคราม
4.วัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร
วัดบวรนิเวศสร้างขึ้นใน รัชกาลที่ 3 สร้างขึ้นด้วยศิลปะไทยผสมจีน เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ที่เสด็จออกทรงผนวชทุกพระองค์ และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกอีกด้วย
พระประธานในพระอุโบสถ และ พระพุทธชินสีห์
ซึ่งในช่วงเวลานี้ที่วัดมีงานบำเพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อยู่นะครับ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่http://www.watbowon.com)
ตำหนักเพ็ชร สถานที่จัดงานบำเพ็ญกุศลพระศพสมเด็จพระญาณสังวร
5.วัดอินทรวิหาร
วัดอินทรวิหารเป็นวัดที่มีมาก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ เดิมเรียกว่า วัดบางขุนพรหมนอก
หลวงพ่อโต
หลวงพ่อโตพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรสูง 16 วา สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหมรํสี) เริ่มสร้างเมื่อปี 2410 สมัยรัชกาลที่ 4 เแล้วเสร็จในรัชกาลที่ 7
ภายหลังมีการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง จนในปี พ.ศ. 2525 เพื่อร่วมฉลอง กรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี จึงทำการประดับกระเบื้องโมเสคทองคำแท้ 24 เค จากประเทศอิตาลีทั้งองค์
6.วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
วัดเบญจมบพิตรเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกว่า “The Marble Temple” เพราะพระอุโบสถ พระระเบียง ประดับด้วยหินอ่อนที่ดีที่สุดจากประเทศอิตาลี ประกอบกับเป็นวัดที่มีความวิจิตรงดงามด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมไทยโบราณ จึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศสนใจเข้าชมจำนวนมากทุกวัน
ในวันอากาศดีๆเช่นวันนี้ มีตากล้องมาถ่ายรูปวัดกันหลายคน เห็นแล้วอยากซื้อกล้องใหม่ซะวันนี้เลยครับ เพราะภาพที่เห็นด้วยตาสวยงามมาก แต่กล้องคอมแพคในมือถ่ายทอดมาได้เพียงแค่นี้ครับ
พระพุทธชินราชจำลอง ประดิษฐานในพระอุโบสถ
7.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
วัดสระเกศ เป็นวัดโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยา เดิมชื่อ วัดสะแก สถานที่สำคัญในวัดคือ พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ซึ่งรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะและสร้าง แล้วเสร็จในรัชสมัยรัชกาลที่ 5
ขึ้นมาบนภูเขาทองนอกจากได้สักการะพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ยังได้ชมวิวเกาะรัตนโกสินทร์แบบ 360 องศาด้วยนะครับ ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง
รูปหล่อพระอริยสงฆ์ระหว่างทางขึ้นภูเขาทอง
มุมมองจากยอดภูเขาทอง
ร่วมบุญร่วมกุศล มั่ง มี ศรี สุข
8.วัดราชนัดดารามวรวิหาร
วัดราชนัดดาตั้งอยู่ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นพลับพลารับแขกเมือง เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ในวัดราชนัดดามีโลหะปราสาทองค์แรกและองค์เดียวของไทย และถือเป็นองค์ที่ 3 ของโลก ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงแต่ที่ไทยเท่านั้นครับ
แต่ก่อนโลหะปราสาทไม่ได้ตั้งเด่นเป็นสง่าเหมือนในปัจจุบัน เพราะมีโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทยโรงหนังแห่งแรกของไทยตรงหัวมุมถนนราชดำเนินบังอยู่ ต่อมาใน พ.ศ. 2532 มีการรื้อศาลาเฉลิมไทยเพื่อเปิดมุมมองทางเข้าเกาะรัตนโกสินทร์จากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ก่อสร้างเป็นลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ พื้นที่โดยรอบเป็นลานกว้าง ใครรู้เรื่องนี้แสดงว่าอายุไม่น้อยแล้วครับ ผมจำภาพตอนมีโรงหนังได้ เสียดายโรงหนัง แต่ต้องยอมรับว่าลานพลับพลานี่สวยสง่างามจริงๆ
โลหะปราสาท
9.วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร
รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้สร้างวัดสุทัศน์ขึ้น มุ่งหมายที่จะทำนุบำรุงให้เหมือนกรุงศรีอยุธยาเดิม โดยพระอุโบสถของวัดสุทัศน์เป็นพระอุโบสถที่มีความสวยงามขนาดใหญ่และได้ชื่อว่ามีความยาวที่สุดในประเทศไทย
พระศรีศากยมุนี (พระประธานในพระวิหารหลวง)
เสาชิงช้า หนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพ
อ้อเชื่อกันว่าไหว้พระวัดสุทัศน์แล้วจะมีวิสัยทัศน์ที่ดีนะครับ 😀
ขอบอกว่าการปั่นจักรยานนี่ช่วยให้เราสัมผัสสถานที่ได้ใกล้ชิดลึกซึ้งขึ้นอย่างที่การขับรถให้ไม่ได้เลยครับ แม้การขี่จักรยานในกรุงเทพจะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงและอากาศจะร้อนสักหน่อย แต่ในวันอาทิตย์ปริมาณรถบนถนนน้อยลงก็พอไหวครับ ผมว่าการเที่ยวเมืองต่างๆให้คุ้มค่าใช้เวลาให้เกิดประโยชน์สูงสุด การปั่นจักรยานเป็นทางเลือกที่ดีเลย นึกแล้วก็อยากไปปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่นหรือยุโรปเมืองที่มีทางจักรยานดีๆน่าจะฟินสุดๆเลยครับ
ตึกสวยๆระหว่างทางมาวัดสระเกศ
ชอบป้ายชื่อร้านครับเข้ากับการทัศนาจรวันนี้จริงๆ
แวะเติมพลังก่อนกลับบ้าน
ขึ้นเรือข้ามฟากกลับฝั่งธนค่าเรือคนกับจักรยาน 10 บาท
สวัสดีครับ
อ้างอิง
วัดพระแก้ว , ศาลหลักเมืองกรุงเทพ , วัดโพธิ์ , วัดชนะสงคราม , วัดบวรนิเวศ , วัดอินทรวิหาร , วัดเบญจมบพิตร , วัดสระเกศ , วัดราชนัดดา , วัดสุทัศน์