ในฤดูกาล 2015 เส้นทาง พัทยา-ตราด- พัทยา นับเป็นเส้นทาง Audax 600 km. เพียงเส้นทางเดียวในประเทศไทย การจัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ผมได้มีโอกาสติดตามผู้จัดการทีม Very Forty ไปเซอร์วิสและถ่ายรูปเพื่อนร่วมทีม ส่วนเรื่องจะไปปั่นด้วยนี่เลิกคิดไปได้เลย ด้วยสภาพร่างกายตอนนี้ ถ้าปั่นด้วยนี่คือเอาชีวิตไปทิ้งชัดๆ 😀
เราเริ่มต้นกันที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา อากาศยามเช้าแจ่มใส แววตานักปั่นทุกคนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
การปั่นในเมืองพัทยาแม้รถยนต์ค่อนข้างเยอะ แต่นักปั่นก็ยังทำความเร็วกันได้ดี กว่าผมจะเห็นเพื่อนร่วมทีมก็ออกนอกตัวเมืองไปแล้ว
จักรยานอะไรๆก็มาปั่น Audax ได้
Audax600ครั้งนี้มีนักปั่นหญิงเข้าร่วมเยอะจริงๆครับ กะด้วยสายตาคร่าวๆน่าจะประมาณไม่ต่ำกว่า 10 % เลยทีเดียว
กลุ่มนักปั่นบนถนนสาย 332 จุดเริ่มต้นแห่งเนินเขา
นักปั่นบนถนนซอยนิคมสาย11 เนินเขาลูกเล็กลูกน้อยสุดสายตา
Cp 1 สวนสุภัทราแลนด์ มีผลไม้ให้กินมากมาย
ออกจาก CP1 หนทางยังคงมีแต่เนินเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เราพักกินก๋วยเตี๋ยวกันที่ Cp2 ปั้มน้ำมัน ปตท. พักให้อาหารย่อยก็ออกเดินทางต่อ
เหล่านักปั่นท่ามกลางขุนเขาลูกใหญ่
ปั่นกันไปเป็นร้อยกว่าโล ยังคงมีแต่ขึ้นลงเนินตลอด แถมแดดเปรี้ยงๆ สวยมากๆ แต่ก็โหดมากๆ ผมหัวเราะกับ ผจก. เลยว่าคนมาปั่น 600 นี่มันบ้าชัดๆ มากันเยอะเสียด้วย 555 แต่เชื่อว่าการปั่นสองวันนี่จะทำให้ทุกคนประทับใจไปจนตายเลย มันไม่ใช่กิจวัตรที่ทุกคนต้องทำ แต่มันคือสิ่งท้าทายที่ทุกคนอยากทำ ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร หวังว่าคนที่ปั่นจบทริปนี้คงหาคำตอบให้ตัวเองได้
เส้นทางสู่ Control point จุดชมวิวนางพญา
ถึงจุดชมวิวนางพญาเวลาเย็นๆ จุดนี้ผมเคยผ่านตอนปั่น Audax 300 ระยองแต่เป็นเวลามืดแล้ว ครั้งนี้เลยติดจักรยานมาด้วย กะมาปั่นซ่อมซะหน่อย เส้นทางสวยงาม ระหว่างทางเจอแผงขายทุเรียนเลยจัดมาซะ 1ลูก นี่เป็นสเน่ห์ อย่างหนึ่งของ Audax อยากกินอะไร อยากแวะที่ไหน ทำได้เต็มที่ ขอให้บริหารเวลาได้เท่านั้นเอง
แวะซื้อพวงมณี
หาดเจ้าหลาว
สะพานแขมหนู
มุมมองจากสะพานแขมหนูยามเย็น
Cp 3จุดชมวิวแหลมสิงห์ จุดนี้มีคนตัดสินใจออกจากการแข่งขันเยอะมาก ถือเป็นจุดวัดใจเลยหลังจากผ่านความยากลำบากมาทั้งวัน เห็นหลายๆคนเริ่มนอนพักกันที่จุดนี้
ออกเดินทางจาก cp3 ค่อยโล่งใจหน่อยเพราะไม่มีเนินโหดๆอีกแล้ว แต่ก็ดีใจได้ไม่นานเมื่อเลี้ยวเข้าถนน 3156 ต้องเจอกับเนินอีกรอบ เส้นทางที่มืดสนิท แถมเพื่อนบอกว่ามีหมาวิ่งไล่เป็นระยะอีกด้วย (โหดเจงๆ)
เมื่อถึงCp4 โรงพยาบาลแหลมงอบ ก็ได้ครึ่งทางแล้ว หลายคนคนตัดสินใจพักนอนกันที่นี่ ทั้งสนามหญ้า พื้นโรงพยาบาล แม้กระทั่งบนถนนคอนกรีตก็ยังมีนักปั่นนอนอยู่ คงไม่มีโอกาสไหนที่เราจะนอนตรงไหนก็ได้ ขอให้มีพื้นที่เหมือนการปั่น Audax อีกแล้ว แต่ก็ได้ยินว่ามีนักปั่นหลายคนปั่นต่อ โดยไม่ได้นอน สุดยอดคนเหล็กจริงๆ ส่วนผมเปิดโรงแรมนอนพักสักงีบ ขนาดนั่งรถเซอร์วิสยังเหนื่อยเลย โดยเรานัดแนะกันว่าจะออกจาก โรงแรมซึ่งยู่ประมาณ กม. 321 ประมาณ 5.30 น. ส่วนเพื่อนร่วมทีมที่นอนที่แหลมงอบควรจะออกก่อน 4.00 น.
เช้าวันที่สองฝนโปรยปรายมาเล็กน้อย ไม่มากอย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนแข่ง พอสายๆเข้าเขตจันทบุรีแดดก็เริ่มร้อน ที่สำคัญคือลมแรงมากๆ พัดสวนการปั่นเสียด้วย ไม่มีเนินก็มีลมมาแทนครบเครื่องจริงๆ
Cp 5 จุดชมวิวแหลมสิงห์
เหนื่อยนักก็พักก่อน cp5 แล้ว
สะพานแหลมสิงห์
มุมมองจากสะพานแหลมสิงห์
แวะพักศาลาเชิงสะพานแขมหนู แดดร้อนๆไม่มีเค้าฝนใหญ่ตามที่คาดการณ์กันไว้
จับดรอป ก้มมุดลม บนถนนบูรพาชลทิศ
เมื่อถึงCP6 ปากน้ำประแสร์ ก็ผ่านมาเกิน ¾ ของเส้นทางแล้ว โดยปกติของการปั่นทริปอื่นๆผู้ที่ผ่านจุดนี้มาได้ มักจะไปต่อได้ แต่วันนี้ไม่ใช่อย่างนั้น ด้วยแดดที่ร้อนๆ บวกกับสายลมที่ยังคงรุนแรง ทำให้นักปั่นทะยอยออกจากการแข่งขันเรื่อยๆ
Cp6 (เรือรบหลวงประแสร์)
ปากน้ำประแสร์
สะพานประแสสิน
นักปั่นทีมเราถึงเมืองระยองก็เย็นมากแล้ว ที่นี่ผู้จัดกำหนดเส้นทางให้ผ่านแทบทุกหาดในเมืองระยอง ช่วงเวลาเย็นจะพบกับรถของคนที่มาพักผ่อนริมหาดจำนวนมาก เส้นทางที่ติดขัด เวลาที่เหลือน้อย ยิ่งบีบหัวใจนักปั่นมากๆ
ยามเย็นวันที่สองในตัวเมืองระยอง ปั่นกันจนหมดไปหลายก๊อกแล้ว
หนึ่งในหลายหาดของเมืองระยองที่นักปั่นต้องผ่าน หาดแสงจันทร์
Cp 7 Burger-Bus Coffee&Tea หาดพลา เหลืออีกเพียง 50 กว่าโลก็จะถึงจุดหมาย ถึงจุดนี้หลายๆคนอาจจะสบายใจขึ้น เทียบกับระยะทางที่ผ่านมา ระยะทางที่เหลือดูเหมือนจะไม่โหดนัก เห็นนักปั่นหลายๆคนดูชิลๆกันแล้ว แต่เส้นทางเข้าเมืองพัทยาช่วงต่อไปมีทั้งทางที่กำลังราดยาง และแยกไฟแดงจำนวนมาก ลมริมทะเลที่ยังคงแรง ทำให้มีคนพลาดเข้าเส้นชัยไม่ทันจำนวนไม่น้อยทีเดียว
ซึ่งในตอนแรกผู้จัดได้เก็บโต๊ะรับลงลงทะเบียนไปแล้ว แต่ด้วยการขอร้องของนักปั่นกลุ่มใหญ่ บอกว่าติดไฟแดงนานมากๆ ทำให้ผู้จัดกางโต๊ะรับลงทะเบียนอีกครั้งหนึ่ง นักปั่นที่ได้รับการอนุโลมครั้งนี้มีจำนวนหลายสิบคนทีเดียว เชื่อว่าการอนุโลมครั้งนี้คงเป็นที่ถกเถียงกันไปอีกนานว่าควรทำหรือไม่ควรทำ เพราะมีนักปั่นที่ไม่รู้เรื่องนี้ แต่กลับไปก่อนที่จะกางโต๊ะใหม่ก็หลายคน
@เส้นชัย ศาลาว่าการเมืองพัทยา ปั่นตั้งแต่เช้าวันแรก ถึงค่ำๆของวันที่สอง
บทสรุปของ Audax 600 ครั้งนี้ ถือเป็นทริปที่โหดสุดของฤดูกาลนี้เลย ยิ่งเป็นทริปที่หลายคนหวังจะต้องทำให้ได้ เพื่อได้สิทธิไปปั่น PBP ปารีสด้วยแล้ว คนที่พลาดย่อมผิดหวังมากเป็นธรรมดา แต่นั่นแหละครับ การออกรบย่อมต้องมีพ่ายแพ้บ้าง เราก็แค่กลับมาวางแผนแล้วก็ออกไปสู้กันใหม่ สนามรบสำหรับนักปั่นที่มีเลือดบ้ายังมีอีกหลายสนามครับ ถ้าเราไม่ล้มเลิกความตั้งใจ โอกาสก็ยังมีอยู่เสมอ ปั่นกันต่อไปครับขอเอาใจช่วย 😀
สองเท้าย่ำบันได ปั่นไปตามฝัน
ประสบการณ์จากผู้ร่วมปั่น Audax 600 พัทยา-ตราด
Sakuna Usanawasin “ไม่นึกว่าจะเจอเส้นทางสุดโหด ทางเขาขึ้นเนินลงเนินตลอด ไม่จบไม่สิ้น ไม่รู้ว่า ไกลเท่าไหร่ แต่มันช่างยาวไกลในความรู้สึก กระแสลมสวนมา และแดดอันแรงกล้าทั้งวัน….” อ่านต่อ….
Vatin Chalermdamrichai “บอกไม่ได้ว่ากี่ครั้งที่คิด
Amnuay Opassetthakul “จากแผนที่คิดปั่นสบายๆที่20ต้นๆ ก็เพียงพอ แต่ความเป็นจริงไม่เช่นนั้น ตลอดทางลมแรงมาก แจ๊คใช้คำว่าลมตึงเพราะดูจากธงตามทาง ยิ่งเลียบทะเลซึ่งเป็นตลอดทาง ปั่นเต็มที่ความเร็วได้เพียง20 บางช่วงผมนับระยะทีละ100เมตร….” อ่านต่อ…….
Nattapong Nithi-Uthai “Audax ได้สอนผมหลายอย่าง พาผมไปสุดขอบของร่างกายผมหลายต่อหลายครั้ง อย่างที่เขาว่า PBP มีทุกสี่ปี รอบหน้าลูกคนโตสิบขวบ คนเล็ก 5 ขวบเศษก็ยังไม่สายจนเกินไป ผมคงไม่ทิ้งมันง่ายๆแล้วจะกลับมาใหม่”