Audax 300 ระยอง เส้นทางที่สวยงาม
หลังจากปั่นAudax200อัมพวาผ่านได้ ผมก็เหมือนคนส่วนใหญ่ครับอยากรู้ว่า 200 กม.ปั่นได้ แล้ว 300 กม.ล่ะจะไหวไหม อยากรู้ก็ต้องลองดูครับ
Audax300 จะเริ่มปั่นตีห้า และต้องถึง CP (เช็คพ้อยต์)สุดท้ายก่อนตีหนึ่งของอีกวันรวมให้เวลาปั่น 20 ชั่วโมง ผมกับทีม V40 รวมตัวออกปั่นพร้อมกันที่จุดเริ่มต้นหาดหินขาว ปั่นลัดเลาะตามหาดไปสักพักหัวหน้าทีมก็ยางรั่วครับ ระยะทางแค่ไม่กี่กิโลแต่พบคนยางระเบิด ยางรั่ว หลายคนเลย เส้นทางนี้ซักไม่ง่ายแล้ว หลังจากปะยางเสร็จก็ปั่นกันต่อ ผ่านสวนสน หาดแม่รำพึง ผมยังปั่นตามกลุ่มได้สบายๆครับ เช้าๆ อากาศดี เราเข้าจุดCP1 ที่จุดชมวิวหาดแหลมสน เติมพลังด้วยข้าวต้ม 2 ถ้วย ผมขอให้เพื่อนๆถ่ายรูปหมู่ที่จุดนี้ซะหน่อย เพราะไม่แน่ใจว่าหลังจากนี้จะรวมกันได้ครบๆอย่างนี้หรือเปล่า โดยเฉพาะขาอ่อนอย่างผม
ครบๆและยังยิ้มได้ Checkpoint 1: จุดชมวิวหาดแหลมสน
ออกจาก cp1 ข้ามสะพานประแสร์สิน วิวสวย เลยจอดถ่ายรูปซะหน่อย ปล่อยให้กลุ่มเพื่อนๆนำไปก่อน ทำใจปั่นคนเดียวแล้วครับ เพราะรู้สึกว่าถ้าเร่งปั่นตามเพื่อนน่าจะไม่จบทริปนี้ สู้ปั่นตามกำลังตามแรงของเราดีกว่า จากนั้นก็ปั่นไปเรื่อยๆ เริ่มเจอเนินเป็นระยะๆ อากาศก็เริ่มร้อน ผมไม่เคยเป็นตะคริว ก็ยังมาเป็นครั้งแรกตอนปั่นขึ้นเนินช่วงอ่างเก็บน้ำเขาจุก ยังดีที่เส้นทางช่วงนี้สวยมากๆ แวะพัก ถ่ายรูป จูงจักรยาน ก็เพลินดีครับ
วิวอ่างเก็บน้ำเขาจุก
เส้นทางช่วงนี้เป็นเนินขึ้นลงตลอด ทำให้ระหว่างทางพบคนเป็นตะคริวเรื่อยๆ บางคนยืนค้างบนจักรยานขยับไม่ได้ ต้องช่วยกันประคองลง ผมชอบการปั่น Audax ตรงที่เราแข่งกับตัวเอง ทำให้ระหว่างทางเราช่วยเหลือกันได้ คนมียา มีสเปร์ก็จอดลงมาช่วยเหลือกัน แต่ถึงอย่างนั้นคนที่ออกจากการแข่งขันในช่วงก่อนถึงCP2 ก็น่าจะเยอะพอสมควร
Checkpoint 2: ลานกิจกรรมโรงเรียนวัด เขาหนองปลาไหล
หลังจากกินข้าวเหนียวมะม่วงไปหลายกระทง ก็เริ่มออกเดินทางต่อด้วยความกระหยิ่มนิดๆ เพราะน้องเจ้าหน้าที่บอกเนินไม่เยอะเหมือนที่ผ่านแล้ว ที่ไหนได้ ยิ้มได้พักเดียวฝนเทตูมลงมาเลย ต้องปั่นลุยฝนแถมสวนลมซะด้วย แต่ก็ดีอยู่อย่างที่อากาศไม่ร้อน เสียดายก็แต่บางช่วงกลุ่มเมฆฝนลอยต่ำเรี่ยๆเทือกเขา สวยมากแต่ควักกล้องออกมาถ่ายไม่ได้
ถึงCP3 ค่ายเนินวง ครึ่งทางแล้ว ความเปียก ความหิว ความเหนื่อย ทำให้อยากจะเลิกแล้วครับ ยังดีที่เพื่อนๆนักปั่นที่เจอกันระหว่างทาง ชวนให้ไปด้วยกันต่อ เอาๆ เรามันใจง่าย ไปก็ไป ระหว่างทางเพื่อนใหม่เลี้ยงแตงโมด้วย ทำให้เรี่ยวแรงคืนมาเยอะ แต่ปั่นไปเรื่อยๆ แรงก็หมด ตามเพื่อนใหม่ไม่ทัน หลังจากข้ามสะพานตากสินมหาราชมานี่ไม่รู้แรงหมดรึลมแรง ปั่นได้ไม่เกิน 20 กม./ชม.เลยครับ แถมรู้สึกแสบก้นอีกต่างหาก ยังดีที่ทางนี้เลียบทะเลไปเรื่อย ปั่นไปมองทะเลไปก็พอทนได้ครับ
ถึงจุดCP4 จุดชมวิวแขมหนู ณ จุดนี้ผมรู้สึกว่าหมดจริงๆครับ ทั้งแรงทั้งใจ แต่เพื่อนๆนักปั่นที่นำมาก็ชวนให้ไปต่อ บอกว่ามาถึงขนาดนี้แล้วอีกนิดเดียวเอง (อีกนิดเดียวนี่ 100 กิโลเลยนะ) เดี๋ยวกินข้าวกินน้ำเยอะๆ แรงก็คืนมาแล้ว เอาๆ เรามันเชื่อคนง่าย ไปก็ไป ออกเดินทางด้วยการจูงจักรยานข้ามสะพานแขมหนู
ปั่นไปเรื่อยๆ เนินก็ยังมีมาเรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงโค้งขวาขึ้นเนิน เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน ชันมากๆ ผมจูงจักรยาน แต่น้องผู้หญิงในกลุ่มโยกขึ้นเขาแบบสบายๆ ต้องบอกว่าภาพมันติดตา ประทับใจมากๆ บอกไม่ถูก 555
เราผ่านอ่าวคุงกระเบนช่วงพระอาทิตย์ตกดินพอดี สวยมากๆ เสียดายไม่มีแรงถ่ายรูปซะแล้ว แต่หลังจากแวะทานข้าวเย็น กินโค๊กเย็น เรี่ยวแรงก็คืนมาจริงๆครับ
หลังจากอิ่มแล้วเราก็เริ่มเดินทางต่อ หลังจากนี้เป็นการปั่นช่วงกลางคืนแล้ว ต้องบอกว่าผมโชคดีมากๆที่ได้กลุ่มเพื่อนปั่น เพราะไฟที่เตรียมมาสว่างไม่พอ การปั่นเป็นกลุ่มจะช่วยได้มาก ยิ่งคนที่ไม่มี GPS นำทาง ต้องอาศัยอ่านคิวชีท ไฟคาดหัวจำเป็นมากๆ
ปั่นและจุงถึงจุด Controlpoint จุดชมวิวนางพญา ประมาณ 2 ทุ่ม ด้วยความเหนื่อยเลยบ่นกับเจ้าหน้าที่ว่า ให้ขึ้นมาทำไมคร้าบมืดแล้วมองวิวอะไรก็ไม่เห็น เจ้าหน้าที่ตอบว่าคนอื่นมาถึงจุดนี้ตั้งแต่บ่ายแล้ว 555 เราผิดเองนี่นา
CP5 จุดชมวิวแหลมสน 250 กิโลแล้ว น้องผู้หญิงในกลุ่มบอกพี่ห้ามเลิกนะ ใกล้แล้ว ต้องขอบคุณน้องเขามากพูดกระตุ้นแถมปั่นลากตลอด แรงดีกันจริงๆ เราพักกันแป๊ปนึงก็ออกเดินทางต่อ เส้นทางช่วงนี้เป็นเส้นทางเดียวกับช่วงขามาแล้วครับ
หลังจากทนปั่นกันมานาน ในที่สุดเราก็ถึงเส้นชัยแบบฉิวเฉียด ที่น่าดีใจคือกลุ่มเพื่อนใหม่ปั่นถึงเส้นชัยครบทุกคนด้วยครับ เป็นความรู้สึกยากจะบรรยายจริงๆ เพราะลำพังตัวเองคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ แต่เป็นเพราะโชคดีที่เจอเพื่อนดีๆระหว่างทาง จริงที่ว่า โชคดีจะเกิดกับเราได้ ต้องตั้งใจและพาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมดีๆด้วย
เบื้องหลังกลุ่มเพื่อนใหม่ ที่ช่วยให้ปั่นเข้าเส้นชัยได้