เทคนิคน่ารู้ เกม โปเกมอน โก






รวบรวมเทคนิคการเล่น เกร็ดที่น่ารู้ สำหรับเทรนเนอร์ Pokemon Go

วันนี้เกมที่ถือว่าฮอทฮิตที่สุดคือโปเกมอนมอนโก แม้จะเริ่มสร่างซาไปบ้าง น่าจะเหลือแต่ผู้เล่นที่คงเล่นไปเรื่่อยๆ ไม่ตามกระแสแล้ว ส่วนตัวผมเองยังเล่นอยู่ เพราะรู้สึกว่าการเล่นเกมโปเกมอน เพิ่มสีสันให้กับชีวิตดี มีอะไรเพลินเวลาออกไปวิ่ง ไปขี่จักรยาน ได้ลุ้นว่าวันนี้จะฟักไข่ได้โปเกมอนตัวอะไร คงเล่นได้เรื่อยๆจนกว่าSeverจะปิดแหล่ะครับ
จากการเล่น อ่านเวบเกี่ยวกับโปเกมอนโก พอจะได้ข้อมูล เกร็ดเล็กน้อยที่อยากแชร์ดังนี้(ตอนเรียนทำไมตัวเองไม่ขยันอย่างนี้นะเนี่ยะ)
1. อีโวโปเกมอน (evolutions) พร้อมๆกับใช้ลัคกี้เอ้กเสมอๆ จะได้ XP เพิ่มเป็น 2 เท่า โดยเราต้องหมั่นเก็บ Pidgeys, Weedles, Rattattas เพื่อมาใช้อีโวด้วย ในครึ่งชั่วโมงเราสามารถอีโวได้ไม่ต่ำกว่า 60 ครั้ง ได้ XP เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 60,000 แต้ม
%e0%b8%ad%e0%b8%b5%e0%b9%82%e0%b8%a7%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%99
2. ส่วนใหญ่จุดที่เกิดโปเกมอนจะมีเวลาที่ชัดเจนแน่นอน เช่น บ้านผมจะเกิดโปเกมอนทุกเวลา XX.44 น. เวลานี้เปิดเครื่องมาจับได้เลย เลทได้สัก 15 นาที บ้านอยู่ใกล้คลอง มีเป็ด ปลา หมีหอย ปลาไหล มาให้จับเรื่อยๆ
โปเกมอนโก

3. Stardust เป็นของสำคัญมาก มีเงินก็ซื้อไม่ได้ ต้องใช้อย่างระมัดระวังครับ โดยเราได้ Stardust มาจาก

  • จับโปเกมอน 1 ตัว ได้ 100 Stardust
  • ฟักไข่โปเกมอนได้ 300 Stardust/km
  • ป้องกันยิมได้ 500 Stardust/gym

โปเกมอนตัวนึงจะใช้ Stardust เพื่ออัพเลเวลจาก เลเวล 1-40 ถึง 289,00 dust ถ้าเราอยากรู้ว่าจากเลเวลอื่นๆต้องใช้สักเท่าไหร่ ลองเช้าไปดูได้ที่  https://pokeassistant.com/stardust?locale=en ซึ่งในเวบเขาบอกรายละเอียดที่น่าสนใจไว้ดังนี้

  • อัพจาก 1 ไปที่ที่เลเวล 11 โปเกมอนเราจะมี CP ที่ 50% ซึ่งเราจะใช้ Strardust แค่ 4.5% ของที่ต้องใช้ทั้งหมด
  • อัพจาก 1ไปที่เลเวล 30 โปเกมอนเราจะมี CP ที่ 90% ซึ่งใช้ Strardust  43% ของที่ต้องใช้ทั้งหมด
  • อัพเลเวลโปเกมอน ตั้งแต่ 1-20 ใช้แค่ 47,300 Dust เทียบกับ20-30 ที่ใช้  77,500 Dust ,30-40 ที่ใช้ 165,000 Dust (ดังนั้นถ้ามีโปเกมอนที่หายากๆ แต่ IV ดี ถึง CP น้อยก็น่าปั้นครับ ขยันเดินปั๊มแคนดี้หน่อย)
  • ถ้าเราเลเวลอัพจาก 30 ไปที่เลเวลสูงสุด จะต้องใช้ 165,000 Dust ซึ่ง CP ที่จะเพิ่มขึ้นแค่ประมาณ 8.4 % กลับกันเราเอาDustจำนวนนี้ไปเพิ่ม CP โปเกมอน จาก เลเวล 20 -30 จะได้ถึง 2 ตัว ซึ่งแต่ละตัวจะได้ CP เพิ่มขึ้นถึง 22%
  • ที่เลเวล 30 โปเกมอน IV ดีๆสามารถมี CP สูงกว่า โปเกมอนเลเวล 40 ที่มีIVแย่ๆ

ในเวบเขาแนะนำว่าให้เน้นเพาเวอร์อัพโปเกมอนที่ IV ดีๆสัก 90%ขึ้นไป (ส่วนตัวได้สัก 80% ขึ้นไปก็พอใจแล้วครับ) และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพาเวอร์อัพจนเกินเลเวล 30 เพราะการที่เรามีโปเกมอนที่เลเวล 30 สัก 20 ตัว เน้นในทีมให้มีหลากหลายและ IV สูงๆ มีประสิทธิภาพดีกว่ามีโปเกมอนที่เลเวลสูงสุดแค่ 3-4 ตัว

ส่วนจะอัพโปเกมอนตัวไหน ตอนเลเวลอะไรก็ลองตัดสินใจดูครับ ส่วนตัวเริ่มอัพตั้งแต่ตอนเลเวล  20 ครับ อยากมีมอนตัวเก่งๆบ้างสัก 6 ตัว ครบทีมไปตียิมหาเหรียญไว้ชอปปิ้งบ้าง

4. ถ้าเจอโปเกมอนตัวที่เราอยากได้สุดๆ ให้ใช้บอลเหลือง Ultraball โดยไม่จำเป็นต้องโยนให้ “Nice” หรือ “Great” แต่ให้โยนบอลไปบนตัวโปเกมอนในจังหวะที่วงแหวนเล็กที่สุด วิธีนี้จะเพิ่มอัตราการจับได้มากกว่าใช้บอลธรรมดาและโยนตอนวงแหวนใหญ่ถึง 2 เท่า (ทางเวบเขาว่างั้น เด๋วต้องไปลองดูมั่งครับ แต่หลังๆนี่ หนูปลา  CP แค่ 10-50 บอลสีฟ้ายังแตก – -‘)

5. โปเกมอนในแต่ละธาตุตัวไหนเก่งที่สูด เรื่องนี้แต่ละเวบก็ให้ความเห็นไม่เหมือนกัน ผมเอาข้อมูลมาจาก   https://rankedboost.com/pokemon-go/ ซึ่งจัดลำดับโดยใช้ค่า CP เป็นหลัก แต่ก็มีเกณฑ์อื่นประกอบด้วย  มาดูกันว่าในแต่ละธาตุ โปเกมอนตัวไหนเก่งสุด

  • Normal Type  Pokemon = SnorlaxSnorlax
  • Fighting Type Pokemon = Machamp Machamp
  • Flying Type Pokemon =  Dragonite Dragonite
  • Poison Type Pokemon = Venusaur Venusaur
  • Ground Type Pokemon =  Nidoqueen Nidoqueen
  • Rock Type Pokemon = Gorem Golem
  • Bug Type Pokemon = Pinsir Pinsir
  • Ghost Type Pokemon = Gengar Gengar
  • Steel Type Pokemon = Magneton Magneton
  • Fire Type Pokemon = Arcanine Arcanine
  • Water Type Pokemon = Vaporeon Vaporeon
  • Grass Type Pokemon = Venusaur Venusaur
  • Electric Type Pokemon = Raichu Raichu (ส่วนตัวผมว่า ElectabuzzElectabuzz น่าจะเก่งกว่านะ)
  • Psychic Type Pokemon  = Exeggutor Exeggutor
  • Ice Type Pokemon = Lapras Lapras
  • Dragon Type Pokemon = Dragonite Dragonite
  • Fairy Type Pokemon = ClefableClefable
  • Dark Type Pokemon = -o-

pokemon-go-cp-1

6. การใช้ Incense หากเราอยู่กับที่ มีโอกาสที่เกิดโปเกมอนทุกๆ 5 นาที แต่ถ้าเราเคลื่อนไหวโอกาสที่่จะเกิดโปเกมอนคือ ทุกๆ 1 นาที/200 เมตร (จาก rankedboost.com อันนี้ต้องลองใช้กันดูครับ)

7. การใช้ Lure Module ร่วมกับ Incense จะช่วยเพิ่มจำนวนโปเกมอนมาให้เราจับมากขึ้นอีก

8. การฟักไข่ โปเกมอนที่ได้จะเป็นแบบสุ่มเกิด แต่เปอร์เซ็นการเกิดของโปเกมอนแต่ละชนิดจะไม่เท่ากัน และค่าเฉลี่ย IV ของโปเกมอนแบบฟักจะดีกว่าแบบที่จับได้เอง ส่วนตัวเห็นด้วยกับบางความคิดที่ว่า ชนิดโปเกมอน ค่า IV CP น่าจะถูกสุ่มให้เราตั้งแต่ได้ไข่แล้ว ฉะนั้นจะฟักไข่ใบนั้นตอนไหนก็เหมือนกัน

%e0%b8%9f%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%82%e0%b9%88%e0%b9%82%e0%b8%9b%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%99

 9. นอกจากจะเช็คเลเวลของโปเกมอนได้จากเวบหาค่า IV แล้ว เรายังดูเลเวลได้จากจำนวน Stardust และ จำนวน Candy ที่ต้องใช้ในการ เลเวลอัพก็จะพอรู้คร่าวๆได้ จากรูปถ้าเราจับโปเกมอนที่ต้องใช้ Stardust 3,000 ก็แสดงว่าเราได้โปเกมอนที่เลเวล 21-22 ถ้าเราอยากอัพโปเกมอนแค่เลเวล 30 ก็ดูว่าใช้ Candy 4 เม็ดเมื่อไหร่ก็เบรคครับ( เราจะอัพเลเวลของโปเกมอนได้เกินเลเวลของเทรนเนอร์แค่นิดหน่อยครับ)

stardust

ที่มา candy-and-startdust-cost-per-power-up-per-level

10. โปเกมอนในย่านที่เกิดเยอะๆ จะเจอแต่ตัวCP สูงๆIV ต่ำๆ
ส่วนในพื้นที่โปเกมอนนั้นเกิดน้อยๆนานๆเจอที จะมาแบบอลังการ สูงทั้งCP และIV (เครดิตจาก:คุณ108เชียงใหม่-ขุนยวม pantip.com)  อันนี้จริงเลย บ้านผมเจอ slowpoke กับ เป็ดแต่ไม่ได้ตัว IV สูงๆเลย ผิดกับอีวุย นานๆจับได้ที แต่ได้แต่ตัวดีๆ Wonder!ทั้งนั้น ทำให้ย่อยตัว CP ต่ำๆ เป็นแคนดี้ไม่ค่อยลง ดังนั้นถ้าเราได้อยากได้โปเกมอนชนิดใหม่ๆ รึตัวเดิมแต่ IV ดีๆ ก้ต้อง GO! ครับ

11. แม้เวบนอกจะบอกว่า การฟักไข่โปเกมอนจะเป็นการสุ่มเกิด แต่จากประสบการณ์ของผมและเทรนเนอร์หลายๆคนใน Pantip.com เห็นตรงกันว่า ถ้าเราได้ไข่จากที่เดิมๆ โอกาสที่จะฟักได้โปเกมอนตัวเดิมๆ สูงมาก (จากกระทู้ คาใจเรื่องฟักไข่ Pokemon )

ดังนั้นถ้าอยากได้ โปเกมอนตัวใหม่ รวมถึงตัวเดิม แต่ IV ดีๆ ก็ต้องเดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ใหม่ๆ ตามคอนเซ็ป GO ของเกมล่ะครับ เพราะโปเกมอนแต่ละท้องถิ่นไม่เหมือนกัน โปเกมอนหายากในกรุงเทพ เช่นแม่เหล็ก(Magnemite บอล(Voltorb) ม้าไฟ(Ponyta) และแมวน้ำ สามารถหาได้ง่ายๆที่พัทยา




6 CommentsLeave a comment

Leave a Reply to Amnuay Opassetthakul on Facebook Cancel Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *