สัมผัส Audax 400 เจ้าพระยาและปั่นทัวร์ริ่งท่องเที่ยว สิงห์บุรี ลพบุรี
หลังจากผมปั่น Audax 300 ระยองผ่านมาได้แบบฉิวเฉียด ทำให้รู้ว่า Audax 400 เจ้าพระยาเป็นเรื่องยากมากๆสำหรับตัวเอง แต่ด้วยชื่อเสียงของเส้นทางปั่นจักรยานเรียบแม่น้ำน้อยที่สวยงาม ทำให้อยากไปปั่นบ้าง เลยตัดสินไปร่วมปั่นเชียร์เพื่อนๆV40 เป็นบางช่วงและถือโอกาสทัวร์ริ่งท่องเที่ยวไปด้วยเลย
ผมปั่นจักรยานมาขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง โดยซื้อตั๋วเที่ยว 7 โมงเช้า รถไฟสายกรุงเทพ-เด่นชัย ไปลงที่อยุธยา ค่าตั๋ว 20 บาท ค่าโหลดจักรยาน 90 บาท
นักปั่นAudax ก็เริ่มปั่นจาก TOT แจ้งวัฒนะ 7 โมงเช้าเช่นกัน รถไฟมาแซงแถวๆรังสิต
ฟ้าใส แดดแรงตั้งแต่เช้า เห็นนักปั่นอยู่ลิบๆ
รถไฟถึงอยุธยาประมาณ 8 โมงกว่า ผมลงรถไฟแล้วเริ่มปั่นไปอ่างทอง กะว่าจะไปเจอเพื่อนๆ ที่CP2 (Checkpoint2) ปั่นมาได้สักพักก็เริ่มเจอชาวออแดกซ์เป็นระยะๆแม้อากาศจะร้อน แต่โชคดีที่ปั่นตามลมทำให้ทำความเร็วกันได้ดี
พบเพื่อนคนแรก จุดลงทะเบียน Cp2 ขุมทรัพย์แห่งความรู้
100 กิโลแรก ส่วนใหญ่ยังยิ้มได้ แม้แดดจะแรง แต่ปั่นตามลม
หลังจากพบเพื่อนผมก็ชิงออกตัวไปก่อน กะไปหาจุดที่วิวสวยๆเพื่อถ่ายรูปเพื่อนๆปั่นจักรยาน เส้นทางช่วงนี้ดีมาก รถก็น้อย แต่ฟ้าใสและแดดเปรี้ยงมากๆ
ทางดี ลมส่ง อัดกันเร็วสุดๆ
วัดสวยและสงบ ระหว่างทางก่อนถึงแม่น้ำน้อย
เส้นทางแม่น้ำน้อย มีเด็กๆให้ความสนใจ มาเชียร์ขบวนจักรยานกันหลายคน
รวมกลุ่มกับเพื่อน หมอนกและตุ๊ ที่ตลาดเล็กๆแห่งหนึ่งริมแม่น้ำน้อย
เมื่อรวมทีมกันได้ ผมเริ่มปั่นไปกับเพื่อน ในใจคิดว่าเหนื่อยแน่ๆเพราะส่วนใหญ่จะปั่นกันเร็ว แต่ครั้งนี้ต้องแปลกใจเพราะผมต้องผ่อนรอ มารู้ทีหลังว่าหมอนกเป็นตะคริวช่วงก่อนเข้า CP2 มิน่าหล่ะเพราะปกติผมรั้งท้ายตลอด ด้วยอากาศทีร้อนมากๆเราแวะกิน แวะดื่มกันตลอดทาง ระหว่างปั่นเรียบแม่น้ำน้อยมีเด็กเล่นชิงช้า กระโดดน้ำเป็นระยะๆ เพื่อนแทบทุกคนมาบอกตรงกันว่า นาทีนั้นอยากโดดน้ำเล่นกะเด็กๆทุกคน 😀
๑Secret CP ใกล้ๆตลาดชันสูตร เหนื่อยแค่ไหน แต่ใจยังโซเชี่ยล 😀
ที่ Secret CP เราพักกันสักครู่ก็ออกปั่นต่อ นัดแนะกันว่าจะไปกินข้าวเย็นกันที่บ้านเพื่อนในตลาดชันสูตรซึ่งอยู่ไม่ไกลอีกแค่ประมาณ 7 กิโล แล้วผมก็จะแยกตัวออกไป แต่ปั่นตามไปได้สักพัก ผมก็รู้สึกฟิวส์ขาดหมดแรงไปดื้อๆ ซะอย่างนั้น เลยต้องแวะพักในศาลา ปล่อยให้เพื่อนๆปั่นกันต่อไป เพราะจริงๆก็ตั้งใจมาส่งเพื่อนแค่นี้อยู่แล้ว
นั่งพักเหนื่อยริมน้ำ การปั่นจักรยานทางไกลท่ามกลางแดดร้อนๆ สำคัญคือเราต้องทานน้ำบ่อยๆ เติมเกลือแร่เรื่อยๆ ถ้าไม่ไหวก็พัก
นั่งจนหายเหนื่อยก็ถึงเวลาชิวๆของผม ซึ่งเป็นอีกจุดมุ่งหมายของการปั่นจักรยานในครั้งนี้ ถึงเวลาปั่นอย่างละเมียดละไมแล้ว จักรยานเป็นพาหนะที่สุดยอดจริงๆครับ นอกจากจะทำให้เราถึงจุดหมายโดยไม่ต้องใช้น้ำมันแล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติและผู้คนอย่างใกล้ชิดในระหว่างเดินทางอีกด้วย
ธรรมชาติริมแม่น้ำน้อย สิงห์บุรี
ยามเย็น๑สิงห์บุรี
ผมเพิ่งรู้เมื่อปั่นผ่านป้ายริมทางว่าสิงห์บุรีเป็นจังหวัดน่าอยู่อันดับหนึ่งของประเทศ เมื่อชมวิวยามเย็นและได้พูดคุยกับชาวบ้านก็รู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ไม่เกินไปนัก หลายๆคนชวนให้นอนในศาลาอเนกประสงค์ริมน้ำของหมู่บ้าน เสียดายผมไม่ได้พกเปลมุ้งมาเอาไว้ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ แต่ผมก็ได้ที่พักดีราคาไม่แพงที่ชาวบ้านแนะนำให้ ขณะที่ผมได้นอนเย็นสบายบนเตียงนุ่มๆ เพื่อนๆก็คงปั่นทวนลมแรงๆกลับกรุงเทพอย่างสนุกสนานในยามค่ำคืน
รุ่งเช้าวันใหม่ ผมตั้งใจปั่นไปไหว้พระนอนจักรสีห์ เที่ยววัดหน้าพระธาตุ แล้วก็เดินทางต่อเพื่อไปขึ้นรถไฟที่ลพบุรีครับ ซึ่งดูจากแผนที่แล้วเป็นระยะทางที่ไม่ไกลเลยถ้าเทียบกับระยะที่เพื่อนๆกำลังปั่นกัน ได้ยินว่าบางคนปั่นกันทั้งคืนไม่หลับไม่นอน
พระนอนจักรสีห์
วัดหน้าพระธาตุ โบราณสถานใกล้ๆวัดพระนอนจักรสีห์ สิงห์บุรี
หลังจากไหว้พระแล้ว ก็เดินทางต่อเพื่อไปขึ้นรถไฟที่ลพบุรี ผมเลือกรถไฟสายเดิมเหมือนขามา ซึ่งรถจะออกจากลพบุรีประมาณบ่าย 2.48 น. ดูแล้วยังมีเวลาเหลือปั่นเที่ยวอีก 5-6 ชั่วโมง การปั่นทัวร์ริ่งของผม จะปั่นไปเรื่อยๆ ความเร็วยี่สิบนิดๆ เจอตรงไหนสวยก็จอดถ่ายรูป เหนื่อยก็พัก หิวก็กิน เรามาเที่ยวไม่ควรรีบร้อน 😀
บรรยากาศระหว่างทางจากสิงห์บุรีไปลพบุรี
พิพิธภัณสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์
วัดพระศรีมหาธาตุ ลพบุรี
หลังจากเที่ยวสถานที่สำคัญๆในลพบุรีแล้ว ก็ถึงเวลาขึ้นรถไฟ ซึ่งสถานีจะอยู่ตรงข้ามวัดพระศรีมหาธาตุ ผมไม่ได้ขึ้นรถไฟนานมาก ต้องบอกว่ารู้สึกแปลกใจเพราะทั้งขาไปและขากลับรถไฟมาตรงเวลาผิดความคาดหมาย แถมเที่ยวที่ผมนั่งคนน้อย นั่งสบาย ชมวิวเพลินมากๆ 😀
ชีวิตชาวบ้านริมทางรถไฟ
ที่ตรงนี้นั้นมีต้นไม้ มีร่มเงาให้นอนสบายพักผ่อน….
https://youtu.be/ML7JoAI98cA
การปั่นจักรยานทัวร์ริ่งครั้งนี้นับเป็นทริปที่คุ้มค่า แม้อากาศจะร้อนฉ่า แต่ท้องฟ้าสดใส ผู้คนก็อัธยาศัยดีจริงๆครับ