รีวิว กล้อง SJCAM SJ4000 WIFI กล้องแอคชั่นแคม ใช้เป็นกล้องติดรถยนต์ได้

พูดถึงกล้องแอคชั่นแคมแล้ว ยี่ห้อที่คนนึกถึงคงไม่พ้นกล้อง Gopro ที่นิยมในตลาด ด้วยคุณสมบัติกล้องที่ขนาดเล็ก สามารถอัดวีดิโอระดับ Full HD ใช้เป็นกล่องถ่ายแอคชั่นแบบกีฬาเอ็กซ์สตรีม ไม่ว่าจะเป็น ฟรีรันเนอร์ ปีนเขา ขี่จักรยาน หรือโต้คลื่น เชื่อว่าหลายคนคงอยากได้ แต่พอเห็นราคาแล้วก็คงเลิกนึกถึงกันไปครับ

ส่วนตัวผมเองก็แอบเหล่ Gopro เหมือนกัน เพราะปั่นจักรยานบางครั้งผ่านวิวสวยๆ ทางชันๆ ภาพถ่ายมันถ่ายทอดได้ไม่หมด บางครั้งก็อยากได้กล้องที่ถ่ายใต้น้ำได้ แต่เห็นราคาแล้วก็ถอยเหมือนกัน คิดว่า เก็บเงินไปถอยกล้องติดรถยนต์ก่อนดีกว่า แต่เดี๋ยวก่อน ความต้องการทั้งหมดนี้เป็นไปได้ในราคาที่ไม่แพง เมื่อเพื่อนผมแนะนำให้รู้จักกับ กล้อง SJCAM รุ่น SJ4000 WIFI ที่เขาใช้อยู่ เห็นราคากับคุณสมบัติกล้องSJ4000 WIFIแล้ว ก็ตัดสินใจจ่ายเงินซื้ออย่างง่ายๆเลยครับ

สเปคกล้อง SJ4000 Wifi

• Image Sensor : CMOS-Sensor
• จอ LCD ขนาด 1.5 นิ้ว
• ถ่ายภาพความละเอียดสูงสุด 12 ล้านพิกเซล (4032×3024)
• ถ่ายวีดิโอความละเอียดสูงสุด Full HD 1920×1080 30fps และ HD 1280×720 60fps
• รูปแบบไฟล์วีดิโอ H.264 (.MOV)
• ความกว้างเลนส์ 170 องศาในรูปแบบเลนส์ไวด์ (Wide Angle Lens)
• ช่องใส่เมมโมรี่การ์ด Micro SD ที่รับได้สูงสุด 32 GB
• ภาษาที่รองรับ ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน เยอรมัน อิตาลี จีน รัซเซีย ญี่ปุ่นและเกาหลี
• ความจุแบตเตอรี่ 900 mAh ถ่ายวีดิโอความละเอียดสูงสุดได้ 80 นาที
• ช่องพอร์ต USB 2.0 และ HDMI
• น้ำหนักรวม 58 กรัม
• สัดส่วน 29.8×59.2×41 มิลลิเมตร
• สามารถถ่ายใต้น้ำได้ลึกสุด 30 เมตร
• รองรับ Wi-Fi ในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ควบคุมและตั้งค่ากล้องผ่านแอพได้ทั้ง Android และ  iOS
• สามารถนำมาใช้เป็นกล้องติดรถยนต์ บันทึกแบบวนลูป และตั้งค่าให้บันทึกอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ได้

ข้อมูลเพิ่มเติม https://sjcamhd.com/sjcam-sj4000-wifi/

จะเห็นว่าดีไซน์ของกล้อง SJCAM ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้อง Gopro เลย ตัวเล็กๆ ขนาดและน้ำหนักที่เบาพกสะดวก รวมทั้งอุปกรณ์เสริมมากมาย ทำให้กล้องเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ได้ยินว่ามีของปลอมด้วย ทางผู้ผลิต จึงมี Code ให้ที่ข้างกล่องสามารถนำไปตรวจสอบที่หน้าเวบ www.sjcamhd/safe ได้ว่าเป็นของแท้หรือเปล่า

ถ้าเราจะนำกล้อง sj4000 ไปใช้เป็นกล้องติดรถยนต์ด้วยก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม คือฐานกล้องแบบดูดกระจก (Suction cup bracket) และ ที่ชาร์จ (Car Charger) ด้วย (คืออุปกรณ์ที่ให้มาเยอะแยะไม่มีตัวนี้ – – ‘ )

กล้อง SJ4000 จะมีโหมดการใช้งาน 4 โหมดด้วยกัน ดังนี้

1.โหมดถ่ายวีดิโอ – หน้าจอแสดงผลในโหมดนี้ จะบอกถึงความยาวของวีดิโอที่อัด ความละเอียดของวีดิโอ

และเวลาในการอัดต่อรอบ ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ในโหมดการตั้งค่า

2. โหมดถ่ายภาพ – กล้องจะแสดงผลด้วยไอคอนกล้อง ความละเอียดที่ถ่าย และลำดับภาพปัจจุบัน

3. โหมดคลังภาพ – สามารถเช็คดูภาพและวีดิโอที่ถ่ายไว้ได้ แต่ถ้าจะทำการลบ ต้องไปในส่วนของการตั้งค่า

4. โหมดการตั้งค่า – สามารถตั้งค่าทั้งหมดของตัวกล้องได้ ตั้งแต่คุณภาพไฟล์ ความยาวในการบันทึกวีดีโอ ฟังก์ชั่นการถ่ายภาพ การจัดการรูปภาพ

การใช้งานกล้อง SJ4000

•  เปิด/ปิด กล้อง โดยกดปุ่ม Power/Mode ค้างไว้ 3-5 วินาที
• เปลี่ยนไปโหมดต่างๆ ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ คลังภาพและการตั้งค่า โดยกดปุ่ม Power/Mode
• การเริ่มบันทึกวีดีโอ ที่โหมดถ่ายวีดีโอ กดปุ่ม OK หยุดบันทึกให้กด OK อีกครั้ง
• การถ่ายภาพที่โหมดถ่ายภาพ กดปุ่ม OK เพื่อถ่ายภาพ

การใช้งานกล้อง SJ4000 เป็นกล้องติดรถยนต์

ก่อนอื่นเราต้องไปที่โหมดการตั้งค่า ฟังก์ชั่น Car Mode เลือกเป็น Yes ทีนี้ทุกครั้งที่เราสตาร์ทรถ กล้องก็จะเริ่มบันทึกภาพและจะหยุดบันทึกและปิดเมื่อเราดับเครื่องถอดกุญแจ

จากการใช้งานถือว่าภาพคมชัด อยู่ในน่าพอใจมากๆเมื่อเทียบกับราคา มุมรับภาพกว้าง ลองดูตัวอย่างจากวีดีโอได้ครับ
ภาพตอนกลางวัน

ภาพตอนกลางคืน ใส่เคสถือถ่ายบนรถตุ๊กๆ

 

การใช้งานกล้องแนวกีฬา โดยติดตั้งบนแฮนด์จักรยาน ทดลองปั่นตอนกลางคืน

ตัวอย่างวีดีโอ 

ภาพจะสั่นๆเป็นบางช่วงที่ผ่านถนนช่วงไม่เรียบครับ สังเกตว่าแฮนด์จะสั่นมาก ถ้าติดตั้งที่หมวกกันน็อค คุณภาพวีดีโอน่าจะดีกว่านี้ครับ

ส่วนการใช้งานอีกอย่างที่คิดว่าพลาดไม่ได้คือ การพากล้องไปดำน้ำครับ ทริปนี้ไปลองกล้องที่เกาะแสมสาร แต่วันนั้นน้ำจะขุ่นไปสักนิด

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง SJ4000 

 

สำหรับข้อดีของรุ่น SJ4000WIFI ที่สำคัญเลยก็คือ การเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอพได้ได้ทั้ง Android และ iOS โดยเมื่อเราเชื่อมต่อแล้วเราสามารถตั้งค่า สั่งงานกล้องให้ถ่ายรูป วีดีโอ รวมทั้งถ่ายโอนไฟล์ได้ ถือว่าใช้งานสะดวกสบายมาก

สรุปโดยรวม กล้อง SJCAM  SJ4000WIFI เป็นกล้องที่ใช้งานง่าย ขนาดเล็ก ประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับราคาสองพันกว่าๆแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก สิ่งเดียวที่ต้องรอพิสูจน์คือความทนทานเท่านั้นเอง อ้อ ข้อเสียเพียงข้อเดียวที่เจอตอนนี้คือ ถ้าเราเปลี่ยนถ่านทุกครั้ง จะต้องตั้งเวลาและวันที่ใหม่ครับ