หลังจากจบ Audax 300 เขาใหญ่ใหม่ๆ ผมเคยคิดว่าจะไม่ปั่น 400 ละ แต่ไม่รู้ยังไงก็ตอบรับคำชวนของหัวหน้าเผ่า V40 ไปจนได้ ยังงงงงตัวเองอยู่ 😀
Audax 400 เจ้าพระยา เส้นทาง 400 แรกของฤดูกาล
เรามารวมตัวกันที่จุดสตาร์ท TOT แจ้งวัฒนะ สถานที่ดีงาม ที่จอดรถกว้างขวาง ความจริงแล้วยังมีน้อง Nattawut กับ น้องวันทิตย์ อีก 2 คน แต่น้องเป็นขาแรงเลยแยกตัวไปก่อน
เราออกจาก TOT สายไปนิด เพราะรอผมและถ่ายรูปหมู่กันก่อน ถนนช่วงโลคัลโรดยังคงมีการทำรถไฟฟ้า ทำให้เราทำความเร็วไม่ได้มาก แต่ก็ยังเร็วกว่าที่ผมปั่นคนเดียว เมื่อมาถึงถนนเรียบคลองเปรมประชากร เราทำความเร็วได้ดีขึ้น จนผมไม่มีโอกาสควักกล้องมาถ่ายรูปเลย ชีวิตเลียบคลองเปรมประชากร แม้จะไม่ไกลกรุงเทพนัก แต่ก็ดูเรียบง่ายสงบดี
Checkpoint1:วัดพระยาญาติ เรามาถึงเวลา 9.00 ก่อนเวลาปิด 1ชั่วโมง 20 นาที เป็นเวลาเข้าที่ดีที่สุดตั้งแต่ผมปั่น Audax มา แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรที่ CP เหลือให้ทาน พวกเราเติมน้ำ เข้าห้องน้ำ แล้วก็ออกปั่นกันต่อ
ผมมัวแต่โอ้เอ้ใส่ถุงมืออยู่ เงยหน้าอีกทีทีมออกตัวกันไปแล้ว ถึงถนนก็เห็นทีมอยู่ลิบๆ เลยรีบปั่นตาม แต่ปั่นยังไงก็ตามไม่ทัน ประกอบกับขนมปังและข้าวเหนียวปิ้งตอนเช้าหมดฤทธิ์ซะแล้ว เห็นนักปั่นหลายคนในร้านข้างทาง เลยแวะกินข้าวหมูกระเทียมไข่เจียวซะเลย ทานเสร็จจะรีบปั่นต่อ ลูกค้าที่เพิ่งเข้าร้าน เห็นนักปั่นผ่านไปเยอะแยะเลยถามว่า “ปั่นไปอยุธยากันเหร๋อครับ” “เปล่าครับ ปั่นไปชัยนาท” “หาาา ชัยนาท!!!! แล้วคืนนี้จะถึงไหมนี่” ผมได้แต่ยิ้มๆตอบไปว่า ถึงครับ แล้วรีบปั่นออกมา กลัวเจอคำถามต่อว่า ปั่นไปทำไม ปั่นไปเพื่ออะไร ซึ่งผมก็ยังตอบคำถามอันนี้กับหลายๆคนไม่ได้ 😀
อิ่มแล้วทำให้มีแรงปั่นดีขึ้น บางช่วงเห็นวิวสวยๆก็ชลอควักกล้องออกมาถ่ายรูปบ้าง ไม่กล้าจอดถ่ายกลัวทีมจะรอนานครับ
Checkpoint2:ขุมทรัพย์ความรู้อ่างทอง เวลา 12.35 ก่อนเวลาปิด 1ชั่วโมง 21 นาที ทีมยังรอผมอยู่ที่นี่ ทุกคนถามกันว่าผมหายไปไหน ขี่ย้อนกลับมาหาก็ไม่เจอ ผมรู้สึกผิดจริงๆ
ผมเลยรีบลงเวลา ตักราดหน้ามาทาน พี่เอ๋เตรียมข้าวเหนียวไก่ย่างไว้ให้ อร่อยมากๆ ทานเสร็จก็ถ่ายภาพกันต่อ ก่อนออก ตามธรรมเนียม 😀
หลังจากนั้นเรารีบออกปั่นกันต่อ เส้นทางยังราบเรียบ เรารักษาความเร็วได้ดี ดีของผมนี่คือแค่ 25-30 นะครับ แค่นี้ก็เร็วมากสำหรับผมแล้ว สำหรับการปั่นไกลๆอย่าง Audax เชื่อว่าพวกพี่ๆในทีมพวกพี่ๆคงเข้าใจข้อจำกัดของผมดี
เราปั่นบนถนนราบเรียบได้ไม่นาน ก็เจอถนนกำลังซ่อมแซม แม้แค่ระยะสั้นๆ แต่ก็เหมือนสัญญาณเตือนให้เราเตรียมตัวให้พร้อมไว้เมื่อเข้าสู่ถนนเรียบแม่น้ำน้อย
เส้นทางเลียบแม่น้ำน้อยนี้ถือเป็นไฮไลท์ของ Audax400 เจ้าพระยาครับ แม้จะเป็นทางราบไม่มีความชัน แต่เป็นเส้นทางที่ไม่เรียบเอาซะเลย บางช่วงเป็นทางคอนกรีตที่รอยต่อเล่นเอามือและก้นสะท้าน บางช่วงเป็นถนนลาดยางที่ผิวหน้าลอกร่อนเป็นหลุมบ่อ ยิ่งไปกว่านั้นถนนบางช่วงพัง เนื่องจากรถบรรทุกที่ขนวัสดุก่อสร้าง มาซ่อมตลิ่งริมแม่น้ำน้อยอีกด้วย
เจอทางไม่ดียังงี้ พี่เปี๊ยกบ่นอู้เลยว่า ทำไมเขาไม่ไปใช้เส้นทางอีกฝั่งนึง ถนนดีกว่าตั้งเยอะ ผมตอบไปยิ้มๆว่า มันเป็นจุดขายของไปแล้วพี่พูดถึง 400 เจ้าพระยาก็ต้องนึกถึงแม่น้ำน้อย คงเปลี่ยนยาก
โดยส่วนตัวแล้วผมชอบเส้นทางนี้นะ ได้ปั่นเรียบแม่น้ำน้อย วิวสวยดี แถมมีกองเชียร์เด็กๆคอยตะโกนถามว่าเหนื่อยไหม ให้กำลังใจตลอดทาง ซึ่งหาบรรยากาศอย่างนี้ได้ยากในเส้นทางหลวงใหญ่ๆ
Secret Checkpoint : จุดนี้ไม่ได้ลงเวลาอะไร มีไว้เพื่อกันนักปั่นหลีกเลี่ยงเส้นทางเลียบแม่น้ำน้อย หนีไปปั่นเส้นทางที่สบายๆกัน ตอนที่เราไปถึงจุดนี้ ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ ขนาดน้ำยังหมดเลยครับ ผมนี่คอแห้งเลย ยังดี มีรถเข็นขายน้ำ ขายไอติม ช่วยชีวิตไว้ได้ เราพักกันครู่นึงก็ออกเดินทางกันต่อ
เราปั่นกันไป คุยกันไป พี่หนุ่มพูดว่า ไม่รู้ว่าวันนี้ จะปั่นจบหรือเปล่า เมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนเลย ทำไมล่ะพี่ พี่เพิ่งบินกลับมาจากอินเดียเมื่อคืน อ้าวแล้วทำไมมาปั่นล่ะพี่ เพื่อนชวนมา เลยมาปั่นเป็นเพื่อน โอ้ สุดยอดยังไงก็ปั่นเป็นเพื่อนกันจนจบนะครับ ยิ่งได้รู้งานนี้พี่เขามาปั่นแบบไม่ลงทะเบียน ปั่นเอามันส์ด้วยแล้ว ยิ่งสุดยอด ผมนี่กว่าจะมาคิดแล้วคิดอีก
ปั่นไปสักพัก เราก็ถึงตลาดเล็กๆ วินาทีที่ไปถึง ผมนึกว่าปั่นทะลุมิติไปโผล่แดนกิมจิซะแล้ว เนื่องจากเห็นแดจังกึมมายืนแจกน้ำอยู่ข้างหน้า ต้องบอกว่าเป็นน้ำขวดที่ชื่นใจที่สุดในทริปเลย กำลังหิวพอดี
แม้จะรู้จากหัวหน้าเผ่าว่า ได้สนับสนุนให้ชาวบ้านในตลาดชันสูตร ซึ่งเป็นบ้านเกิดรี่แฟนของหัวหน้า มีส่วนร่วมในงานปั่น Audax แต่ก็นึกไม่ถึงว่าทุกคนจะจัดเต็มขนาดนี้
เราแวะทานมื้อเย็นกันที่ตลาดชันสูตร โดยครอบครัวรี่จัดเตรียมไว้ มีปลาช่อนเผาของขึ้นชื่อเมืองสิงห์และเมนูปลาที่อร่อย ๆ อีกหลายอย่าง แต่ผมก็ทานไม่ได้มากอย่างที่ตั้งใจ ได้แต่พูดให้หัวหน้าฟังว่า เหนื่อยมากๆ เป็นระยะ 150 ทางเรียบ ที่เหนื่อยกว่าปั่น 300เขาใหญ่เสียอีก
เราปั่นออกจากตลาดชันสูตรเกือบๆ 6 โมงเย็น เส้นทางยังคงลัดเลาะไปตามแม่น้ำน้อยเหมือนเดิม มีป้ายทางขาดปิดเตือนอยู่ แต่พวกเราก็ปั่นไป คิดว่าคงมีไว้เตือนรถยนต์ไม่ให้ผ่านเหมือนที่เคยเจอมา แต่ที่ไหนได้ มันหนักกว่าที่เราคิด โชคดีที่เรามาถึงจุดนี้ไม่มืดจนเกินไป
Checkpoint3: ศาลากลางชัยนาท จ. ชัยนาท เวลา 19.40 ก่อนเวลาปิด 1ชั่วโมง 20 นาที เรายังคงรักษาเวลาได้ดีเหมือนเดิม ที่นี่คนยังนั่งๆนอนพักผ่อนกันอีกเยอะ หลังจากปั่นมากันครึ่งทาง
ส่วนตัวผมเองรู้สึกเหนื่อยมากๆ ถึงกับบอกพี่เอ๋ว่าอยากจะขึ้นรถเซอร์วิสแล้ว แต่พี่เอ๋บอกขึ้นไม่ได้ รถไม่ว่าง ผมถึงกับงงมองไปก็ไม่เห็นใครไม่มีจักรยานซักคัน ในเมื่อขึ้นไม่ได้ก็ต้องปั่นต่อล่ะครับ
พี่ป๊อปเดินเข้ามาถามว่า พี่ลากเร็วไปไหม ได้แต่แข็งใจตอบไปว่า ไม่เร็วพี่ กำลังดีแล้ว ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าช้ากว่านี้อีก คืนนี้เราคงไม่มีโอกาสได้นอนกันแน่ๆ
ออกเดินทางจากชัยนาท พี่หนุ่มเริ่มควบคุมเวลา โดยกะให้ทีมพักสั้นๆ ทุก 20- 30 โล เพื่อที่จะได้มีเวลาไปนอนกันสักครึ่งชัวโมงที่ อ่างทอง โชคดีที่คืนดีอากาศเย็นสบาย แถมลมก็สงบนิ่ง น่าปั่นจักรยานเป็นอย่างยิ่ง แต่ผมกลับปั่นไม่สบายนัก ก้นที่กรำศึกมา 200 กว่าโลเริ่มแสดงอาการแล้ว มันเจ็บจนต้องยกก้นบ่อยๆ พี่เปี๊ยกซึ่งคอยปั่นคุมหลัง สังเกตเห็นจึงบอกให้ผมหาครีมมาทา ผมบอกว่าเตรียมวาสลีนมาแล้ว เดี๋ยวแวะปั๊มแล้วจะทา หลังจากนั้นเมื่อแวะปั๊ม แกก็จะคอยเตือนผมว่า หยิน วาสลีน แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะติดปากแกไป จนจบทริปแกก็ยังเตือนอยู่ ซึ้งจริงๆ – – ‘
Checkpoint4: เราเข้าไปซื้อของเพื่อเก็บไว้ใช้ลงเวลา ที่นี่ พี่เอ๋มีโรตีเตรียมไว้ให้พวกเราด้วย แต่ผมกินไม่ลงเลย อยากนอนมากกว่า
Checkpoint5: ขุมทรัพย์ความรู้ จ. อ่างทอง เวลา 2.09 ก่อนเวลาปิด 1ชั่วโมง 3 นาที เราทำได้ เหลือเวลาพอที่จะนอนสักครึ่งชั่วโมง ที่มีที่นอนนุ่มที่หัวหน้าเตรียมไว้สำหรับนักปั่นทุกคนด้วย ผมเข้าห้องน้ำเรียบร้อย รีบเข้าไปหาที่นอนที่ยังว่างอยู่ทันที ที่นอนหนานุ่มสบาย แต่ให้ตายเถอะ เรานอนกันหลายคนในห้องโถงขนาดใหญ่ เปิดไฟสว่างโร่ แต่ไม่เปิดแอร์ครับ ผมนอนร้อนอยู่พักใหญ่ก็นอนไม่หลับ เห็นท่าไม่ดี เลยออกมานอนข้างๆรถเซอร์วิสดีกว่า เย็นกว่า ถึงยุงจะเยอะก็เถอะ แต่จนแล้วจนรอดก็นอนไม่หลับครับ ( ซวยแล้วกรู)
ถึงเวลา เราออกเดินทางต่อ ปั่นไปเรื่อยๆ สักพัก อำนวยซึ่งตามมาให้กำลังใจที่ CP5 ก็ขับรถแซงพร้อมให้กำลังใจ ถามว่า ไหวนะ ได้แต่กัดฟัน พยักหน้าว่าไหว ทั้งที่จริงๆแล้วตอนนี้ ผมปั่นไปก็ก้มมองไมล์ ไม่ก็คอยนับหลักกิโล เพื่อดูตัวเลขที่ค่อยๆลดลงไป เป็นการให้กำลังใจตัวเอง
Checkpoint6:สายตรวจจักรยาน จ. อยุธยา เวลา 5.12 ก่อนเวลาปิด 32 นาที แม้เวลาเหลือไม่มาก แต่ทีมก็เปิดโอกาสให้ได้พัก ผมรีบนอน โชคดีมากที่นอนหลับ ตื่นขึ้นมารู้สึกสดชื่นขึ้น ปั่นตามทีมลัดเลาะเพื่อออกจากตัวเมืองอยุธยา ซึ่งถ้าปั่นคนเดียวนี่ไม่หลงก็ช้ามากแน่ๆ ออกจากตัวเมืองอยุธยามาได้ก็ใกล้สว่าง
เราแวะทานอาหารเช้ากันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ก่อนเข้าถนนเลียบคลองเปรม แม้จะกินไม่ค่อยลง แต่ผมก็พยายามกินเข้าไป อิ่มแล้ว ผมบอกพี่เปี๊ยกว่า ถ้าผมปั่นไม่ทันก็ไม่ต้องรอนะ ผมจะค่อยๆตามไป พี่เปี๊ยกไม่เห็นด้วย อยากให้ไปด้วยกัน มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ ผมยิ้มแห้งๆ ผมจะอ้วกแล้วพี่ กลัวจะเร็วไม่พอ พี่เปี๊ยกก็เงียบๆไป
ผมรีบปั่นออกมาก่อนทีม เพื่อทำเวลา เมื่อเข้าถนนเลียบคลองเปรมสักพัก ทีมก็ตามมาทัน พี่เปี๊ยกบอกผมรีบตามปั่นเร็วๆ นะ หลังจากปั่นปิดท้ายมาทั้งคืน พี่เปี๊ยกก็ออกปั่นลากทุกคนไปอย่างเร็ว ผมมองดูแล้วนึกชื่นชมทุกคน แรงยังเหลือๆจริงๆ นี่ถ้าผมตามไปไส้คงแตกแน่ๆ ต้องขอบคุณที่พี่เปี๊ยกยอมทิ้งผมไว้ ทุกคนคงคิดได้ว่า ระยะทาง เหลือไม่มากแล้ว แค่ 30 กว่าโล เส้นทางก็ไม่ยาก แล้ว ให้ผมค่อยๆปั่นไปจะเป็นผลดีกับผมมากกว่า
เส้นชัย:ลานจอดรถ บ. ทีโอที จำกัด มหาชน 407.8 กิโลเมตร 9.44 ก่อนเวลาปิด 14 นาที บอกไม่ถูกว่าตัวเองดีใจขนาดไหน แต่ที่ดีใจยิ่งกว่าคือทุกคนในทีมยังรอลุ้น แสดงความยินดีกับผม แม้จะเข้าเส้นชัยก่อนผมถึง 30 นาที โดยเฉพาะพี่หนุ่มดีใจยิ่งกว่าตัวตัวเองได้เหรียญซะอีก 😀
บทสรุป Audax 400 เจ้าพระยา ถึงจะเป็นเส้นทางราบไม่มีเนิน แต่ด้วยระยะทางที่มากขึ้น การปั่นข้ามคืน ที่ทำให้แทบไม่ได้นอน ทำให้เป็นงานยาก บวกกับเส้นทางไม่ราบเรียบ ทางที่พังและกำลังซ่อมแซมเป็นบางช่วงของแม่น้ำน้อย ที่ส่งผลต่อมือ แขน โดยเฉพาะก้นจนระบมสุดๆ ทำให้มีเสียงบ่นจากนักปั่นให้เปลี่ยนเส้นทาง แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมกลับชอบเส้นทางนี้ ชอบธรรมชาติสองข้างทาง ชอบร้านขายอาหารเล็กๆที่คนขายใจดี ชอบคนในชุมชนที่มีส่วนร่วมมาแจกน้ำ ชอบที่ได้ยินเสียงทัก เสียงเชียร์และการแตะมือกับเด็กๆ ผมว่ามันคุ้มกับความลำบาก
นอกจากนั้นการปั่น Audax400 ครั้งนี้ ทำให้ผมได้คำตอบที่หลายๆคนถามว่า “ไปปั่น Audaxทำไม เพื่ออะไร ?” หนึ่งในคำตอบนั้นคือ “มิตรภาพ”
ขอขอบคุณ
ทีมงาน Audax 400 เจ้าพระยา
พี่ป็อป เจ้าชาย Audax ของเรา หัวลากที่ลากแบบคำนึงถึงสภาพลูกทีม
พี่หนุ่ม Mr. Tech มาด้วยใจไม่ได้หวังเหรียญ คอยวางแผนควบคุมเวลาอย่างดี
น้องแตงโม ลิโพวิตันดี ที่ใจสู้ไม่มีถอย (เห็นปั่นอยู่ข้างหน้า แล้วต้องกัดฟันปั่นตาม)
พี่เปี๊ยก เทพเต้าหู้600 คอยกระตุ้น ให้กำลังใจ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พี่เอ๋ มาเซอร์วิสด้วยใจ น้ำ ขนม ไก่ย่าง ไม่อั้น แต่ถ้าจักรยานไม่พังอย่าหวังขึ้นรถ
อำนวย เทพ Audax อีกคน ที่ปั่นบ่อยซะจนเบื่อ แต่ยังตามมาให้กำลังใจเพื่อนๆ
พี่อาร์ม หัวหน้าเผ่า V40 ที่ทำให้เกิดกลุ่มเพื่อน พี่ น้อง เกิดมิตรภาพดีๆ
และ ผจก. เพื่อนๆ V40 ทุกคนที่เชียร์อยู่ที่บ้าน 😀